แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนราธิวาส

อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง
อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว เขาตันหยง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีชื่อเสียงของจังหวัดนราธิวาสและประเทศใกล้เคียงคือ มาเลเซีย ประกอบกับวนอุทยานอ่าวมะนาว มีอาณาเขตพื้นที่ติดต่อกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ จะเป็นหาดทรายขาว สลับกับโขดหิน กระจัดกระจาย อยู่ทั่วบริเวณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว - เขาตันหยง และโอบล้อม ด้วยเนินเขาสูง ตลอดแนว ซึ่งมองดูแล้วมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ที่สำคัญ ในเขตที่เป็นป่าติดกับหาดทรายนั้น ยังมีน้ำตกที่นักท่องเที่ยว สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกด้วย น้ำตกแห่งนี้ ทางอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว เขาตันหยง ตั้งชื่อว่า น้ำตกธาราสวรรค์แต่น้ำตกแห่งนี้จะพบในช่วงฤดูฝนเท่านั้น เป็นน้ำตกที่ มีต้นกำเนิดมาจาก ภูเขาสูงในเขตพระราชฐาน และได้ไหลลงสู่อ่าวไทยในเขตของ อุทยาน
พื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว เขาตันหยง ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วน คือ บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีลักษณะพื้นที่เป็นหาดทรายติดกับชายทะเลและเนินเขาสูง บริเวณป่าสงวน 20% ของนิคมสหกรณ์บาเจาะ ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นป่าพรุมีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนและแห้งแล้ง ในช่วงฤดูแล้งและบริเวณป่าพรุใกล้คลองปิเหล็ง สภาพพื้นที่ก็เป็นป่าพรุแต่มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี

อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป
อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป นราธิวาสเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 7 ชั้น ชั้นที่ 7 เป็นชั้นที่สวยงามที่สุด สายน้ำแผ่กว้างสวยงามอาบเต็มหน้าผาสูงประมาณ 30 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างมีนื้อที่ประมาณ 180,518ไร่ หรือ 288.83 ตารางกิโลเมตร สามารถเล่นน้ำได้ น้ำตกซีโปเป็นต้นน้ำของลำห้วยที่ชาวบ้านนำไปใช้ปลูกลองกองรสดี น้ำตกชั้นแรกอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีแอ่งน้ำกว้างที่เกิดจากการสร้างฝายกั้นน้ำ จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางเดินขึ้นสู่น้ำตกชั้นต่างๆ

สภาพป่าของอุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป โดยทั่วๆ ไปค่อนข้างสมบูรณ์ เป็นป่าดงดิบชื้น มีไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุมโดยทั่วไป สภาพป่าตอนบนตลอดแนวเทือกเขา อยู่ในสภาพที่ดีเขียวชอุ่มตลอดปี ชนิดไม้ที่สำคัญ ได้แก่ หลุมพอ ยาง ตะเคียนทอง และตะเคียนชนิดต่างๆ เป็นต้น

มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่ตำบลดุซงญอ อำเภอจะนะ ตำบลกาลิซา ตำบลเฉลิม ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ ตำบลตะมะยูง ตำบลซากอ ตำบลศรี บรรพต ตำบลเชิงคีรี อำเภอศรีสาครและตำบลลาโล๊ะอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยป่าดงดิบชื้น เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด และมีจุดเด่นที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกไอร์ซือดอ น้ำตกยากาบองอ เป็นแหล่งธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี
อุทยาน แห่งชาติบูโด-สุไหงปาดีมีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่อำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ อำเภอยี่งอ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอระแงะ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส อำเภอรามัน จังหวัดยะลา และอำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานีและเป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาสันกาลาคีรีที่แบ่งเขตแดน ไทย-มาเลเซียเคยเป็นที่ซ่องสุมของผู้ก่อการร้ายจึงไม่ค่อยมีผู้ใดเข้ามา สัมผัสความมหัศจรรย์ของผืนป่าดงดิบแห่งนี้เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง ในปี พ.ศ. 2517 กรมป่าไม้จึงจัดตั้งวนอุทยานน้ำตกปาโจ และกลายมาเป็นอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 294 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของนราธิวาส ยะลา และปัตตานีเทือกเขาบูโดนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งของป่าดิบร้อนแบบอินโด-มาลายัน

พันธุ์ไม้เด่นของที่นี่คือ "ใบไม้สีทองหรือ "ย่านดาโอ๊ะเมื่อปี พ.ศ. 2531 พันธุ์ไม้ชนิดนี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในโลกที่นี่ ใบไม้สีทองเป็นไม้เลื้อย ใบจะปกคลุมด้วยขนกำมะหยี่เนียนนุ่ม มีสีทองหรือสีทองแดงเหลือบรุ้งเป็นประกายงดงามยามต้องแสงอาทิตย์ สัตว์ป่าหายากที่เคยพบในบริเวณนี้คือ แรด ชะนีมือดำ สมเสร็จ และเลียงผา และที่สำคัญ คือ ค่างแว่นถิ่นใต้ ในอุทยานฯมีน้ำตกอยู่หลายแห่ง เช่น น้ำตกภูแว น้ำตกปาโจ และน้ำตกปากอ แต่ที่รู้จักกันทั่วไป นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้สะดวก คือ "น้ำตกปาโจเป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงกว้าง คำว่า "ปาโจเป็นภาษามลายูท้องถิ่นมีความหมายว่า "น้ำตกที่น้ำตกปาโจนี้มีทางขึ้นไปสู่ต้นน้ำเป็นชั้นๆ รวม 9 ชั้น นับว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดและสวยงามแห่งหนึ่งของภาคใต้ แต่เนื่องจากสภาพป่าโดยรอบไม่สมบูรณ์นัก ในหน้าแล้งน้ำจึงค่อนข้างน้อย นอกจากน้ำตกยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ ศาลาธารทัศน์ ซึ่งเคยเป็นพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราวเสด็จประพาสจังหวัดนราธิวาส และยังมีก้อนหินสลักพระปรมาภิไธยตั้งอยู่ในบริเวณน้ำตกปาโจด้วย ฤดูท่องเที่ยวที่นี่ตลอดทั้งปี

น้ำตกฉัตรวาริน 

น้ำตกฉัตรวาริน อยู่ที่ตำบลโต๊ะเด็ง ไม่ไกลจากตัวเมือง ไปตามทางหลวงหมายเลข 4056 ถึง โรงพยาบาลสุไหงปาดีแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนอีก 6 กิโลเมตร  ทางเข้าลาดยางตลอด อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี   เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีน้ำตลอดทั้งปี สภาพแวดล้อมร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด มีตำนานพื้นบ้านเล่าสืบต่อกันมาว่า ที่น้ำตกแห่งนี้ในครั้งโบราณ วันดีคืนดีมักได้ยินดนตรีมะโย่งแว่วดังมาจากน้ำตกเสมอ ๆ เมื่อชาวบ้านพากันไปดูมาก ๆ ก็ไม่พบเห็นสิ่งใดเลย กระทั่งผู้เฒ่าคนหนึ่งชื่อ โต๊ะเด็งแอบขึ้นไปดูขณะที่มีเสียงดนตรีก็เห็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งออกมาร่ายรำทำนองมะโย่ง โดยมีร่มขนาดใหญ่หรือฉัตรกางอยู่ แล้วก็หายวับไป จากเรื่องที่พบเห็นนี้ ชาวบ้านจึงนำมาตั้งเป็นภาษาท้องถิ่นว่า ไอปายงหรือน้ำตกฉัตร  แปลว่าน้ำตกกางร่ม ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2510-2511 อำเภอได้ทำการปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้น จึงตั้งชื่อน้ำตกแห่งนี้เป็นทางการจากความหมายเดิมว่า น้ำตกฉัตรวาริน

ป่าพรุโต๊ะแดง

ป่าพรุโต๊ะแดง เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ป่าพรุโต๊ะแดง หรือ ป่าพรุสิรินธร เป็นป่าพรุที่มีเนื้อที่มากที่สุดที่ยังเหลืออยู่ในประเทศไทย เป็นป่าที่มีความกว้างประมาณ 8 กิโลเมตร และมีความยาวประมาณ 28 กิโลเมตร มีพื้นที่ครอบคลุมอาณาเขตของอำเภอตากใบ อำเภอสุไหงปาดี อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอเจาะไอร้อง และอำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5

พระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ 5) ประดิษฐานอยู่ ณ บริเวณใจกลางสวนภูมินทร์ ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เป็นพระบรมรูปหล่อสำริด สีดำ จัดสร้างโดยกรมศิลปากรเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2510 หันพระพักต์ไปทางประเทศมาเลเซีย แสดงถึงพระบารมีเมตตาเหนือประชาชนชาวสยามที่จะทรงปกป้องแผ่นดินไทยตลอดไปถึงแม้สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงจะเสด็จสวรรคตไปกว่าร้อยปีแล้ว แต่พระบารมีเมตตายังทรงคุ้มครองประชาชนชาวไทยอยู่ ปัจจุบันเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองสุไหงโก-ลก และนักท่องเที่ยวทั่วไป

เกาะยาว
เกาะยาว ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดชลธาราสิงเห จากสี่แยกตลาดอำเภอตากใบเลย ไปยังแม่น้ำตากใบ มีสะพานไม้ชื่อ สะพานคอย 100 ปียาว 345 เมตร ทอดข้ามแม่น้ำตาก ใบไปยังเกาะยาว ซึ่งทางด้านตะวันออกของเกาะจะติดกับทะเล มีหาดทรายละเอียดสีน้ำตาล บรรยากาศสงบงาม ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นมุสลิมประกอบอาชีพประมงและสวนมะพร้าว



วัดชลธาราสิงเห
วัดชลธาราสิงเห (วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย)สร้างขึ้นปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในสมัยดินแดนตากใบยังเป็นรัฐกลันตัน โดยวัดแห่งนี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติ เนื่องจากเป็นโบราณสถานที่รัฐบาลใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงในการปักปันเขตแดนในปี 2441 ที่มีผลให้ดินแดนแห่งนี้ไม่ต้องผนวกเป็นประเทศมาเลเซีย จึงได้รับสมญานามว่า วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จาก สี่แยกตลาดอำเภอตากใบแยกซ้ายประมาณ 100 เมตรเมื่อครั้งอังกฤษได้มลายูเป็นเมืองขึ้นนั้น อังกฤษพยายามจะรวมเมืองนราธิวาสไว้ในเขตมลายูด้วย แต่ ทว่าทางไทยเราได้อ้างว่าหัวเมืองนี้เป็นของไทยมานาน โดยยกเอาวัดชลธาราสิงเห ที่อำเภอตากใบ ซึ่งเป็น วัดไทยมาเป็นข้ออ้าง อังกฤษจึงยอมให้นราธิวาส รวมอยู่ในเขตของไทยวัดดังกล่าวยังเป็นศูนย์รวมความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวไทย ในเขตอำเภอตากใบและใกล้เคียง รวมทั้งชาวมาเลเซีย ปัจจุบันมีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษา 7 รูป มีพระไพศาลประชามาศ เป็นเจ้าอาวาส

มัสยิดตะโละมาเนาะ300ปี
ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เพียง 4 กิโลเมตร ทางเข้ามัสยิดแยกจากเส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 42 (สายเอเชีย 18) เส้นทางนราธิวาส-ปัตตานี ตรงทางแยกบ้านบือราแง ตั้งอยู่ที่บ้านตะโละมาเนาะ หมู่ที่ 1 ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส มัสยิดวาดิลฮูเซ็น เป็นมัสยิดเก่าแก่และมีประวัติอันยาวนาน ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่ามัสยิด 200 ปีบ้าง มัสยิด 300 ปีบ้าง มัสยิดวาดิลฮูเซ็น (มัสยิดตะโละมาเนาะ : 200 ปี) ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอบาเจาะจังหวัดนราธิวาสเพียง 4 กิโลเมตร ทางเข้ามัสยิดแยกจากเส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 42 (สายเอเชีย 18) เส้นทางนราธิวาส-ปัตตานี ตรงทางแยกบ้านบือราแง ตั้งอยู่ที่บ้านตะโละมาเนาะ หมู่ที่ 1 ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
มัสยิดแห่งนี้สร้าง แบบศิลปไทยพื้นเมืองประยุกต์กับศิลปแบบจีนและศิลปแบบมลายู ส่วนที่เด่นที่สุดของมัสยิดนี้จะอยู่ที่หลังคาอาคารหลังแรกส่วนที่เป็นมิหรอบ หลังคามี 3 ชั้น มุงด้วยกระเบี้องดินเผา หลังคาชั้นที่ 3 มีโดมเป็นเก๋งจีนอยู่บนหลังคา เป็นศิลปแบบจีนแท้ เสาจะแกะสลักเป็นรูปดอกพิกุล ในสมัยนั้นเก๋งจีนจะใช้เป็นหออะซาน(สำหรับตะโกนเรียกคนมาละหมาด) ส่วนหลังที่ 2 จะมีหลังคา 2 ชั้นมุงด้วยกระเบื้องดินเผา หลังคาชั้นที่ 2 จะมีจั่วอยู่บนหลังคาชั้นแรกมีฐานดอกพิกุลหงายรองรับจั่วหลังคาอีกชั้นหนึ่ง มีรูปแบบทรงไทย แบบหลังคา โบสถ์วัดทั่ว ๆ ไปรอบ ๆฐานดอกพิกุลหงายจะแกะสลักเป็นลายเถาว์ก้านมุมหลังคาด้านบนของอาคารทั้ง 2 หลัง ใช้ปูนปั้นเป็นลายกนก ลายเถาว์ก้าน มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ ประกอบศาสนกิจของชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามมาหลายชั่วอายุคนซึ่งนับว่ามีความสำคัญต่อชุมชนมาก



หาดนราทัศน์
หาดนราทัศน์เป็นชายหาดที่มีความสวยงาม โค้งหาดยาวต่อเนื่องประมาณ 5 กิโลเมตร มองเห็นได้ไกลจนสุดลูกหูลูกตา จรดกกับปลายแหลมปากแม่น้ำบางนราทางทิศใต้ แต่ก่อนนั้นชายหาดนี้จะกว้างมากจนเมื่อมีการสัมปทานขุดทราย ทำให้หาดนี้แคบลงกว่าแต่ก่อนมาก อย่างไรก็ดีหาดนี้ก็ยังเป็นหาดที่มีความสวยงามอยู่เช่นเดิม ริมหาดที่ร่มรื่นด้วยทิวสนมากมาย อีกทั้งยังมีลมพัดเย็นบรรยากาศเป็นส่วนตัว ทำให้หาดนราทัศน์เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองนราธิวาส และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเสมอ
หาดนราทัศน์ยังเป็นสถานที่ในการจัดงานประเพณีชักพระ ในช่วงเดือน 11 ของทุกปีด้วย นอกจากหาดนราทัศน์แล้ว นราธิวาสยังมีชายหาดที่น่าสนใจอีกคือ อ่าวมะนาว ตั้งอยู่บริเวณเขาตันหยง ห่างจากตัวเมืองนราธิวาสประมาณ 3 กิโลเมตร อ่าวมะนาว เป็นอ่าวที่มีหาดทรายอยู่หลายช่วง ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร จนถึงเขตพระราชฐานของพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ อ่าวแต่ช่วงนั้นคั่นด้วยแหลมหิน มีเนินเขาที่สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้ นับเป็นอ่าวและหาดที่มีความสวยงามที่สุดอีกหาดหนึ่ง 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น