ของดีประจำจังหวัดนราธิวาส

ของดีประจำจังหวัดนราธิวาส


ผ้าบาติก



ผ้าบาติก คำว่า บาติก เป็นภาษาชวา ใช้เรียกผ้าย้อมสีชนิดหนึ่งที่รวมเอาศิลปะทางด้านฝีมือ และเทคนิคการย้อมสีเข้าด้วยกัน จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่ามีการทำผ้าบาติกมาใช้กันมาประมาณ 2,000 ปีมาแล้วการทำผ้าเป็นศิลปหัตถรรมที่น่าสนใจ หลักการทำผ้าบาติกอาศัยเทคนิคง่ายๆ คือ การวันสีด้วยเทียน โดยใช้ วันติ้ง เป็นเครื่องมือที่จุ่มเทียนไขเหลวเพื่อวาดลวดลายลงบนผืนผ้าก่อนลงสีในส่วน ที่ไม่ต้องการให้ติดสีที่ย้อม เมื่อนำไปย้อมสี สีก็จะติดเฉพาะส่วนที่ไม่ลงเทียนไว้และจะติดซึมไปตามรอยแตกของเทียนเกิดลวด ลายสวยงามแปลกตาอันเป็นสัญลักษณ์ของผ้า ปัจจุบันการทำผ้านิยมใช้วิธีพิมพ์ลายผ้ามากกกว่าวิธีเขียนลายด้วยมือเพราะ เร็วและสะดวกกว่า ผ้าบาติกนี้นอกจากส่งขายตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ในไทยแล้ว ยังส่งออกไปขายในมาเลเซียด้วย


ปลากุเลาเค็ม



ปลากุเลาเค็ม เป็นอาหารและสินค้าที่ขึ้นชื่อของอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส คนตากใบมักจะพูดเล่นๆ กันว่า เป็นปลาที่ คนกินไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้กินเนื่องด้วยปลากุเลาเค็มมีราคาแพง จึงมักจะถูกซื้อหาไปเป็นของกำนัลผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้บังคับบัญชามากกว่าที่จะซื้อหามาทานเอง ขนาดราคาแพงเวลาจะซื้อต้องจองกันเลยทีเดียว ปลากุเลาเป็นปลาเนื้อละเอียด เมื่อนำมาทำเค็มจะอร่อยมาก ดังนั้นปลากุเลาเค็มจึงได้ชื่อว่า "ราชาแห่งปลาเค็ม" 


สะตอหรือลูกตอ 

เป็นผลิตผลจากพืชเศรษฐกิจ ของภาคใต้มีลักษณะเป็นฝักแต่ละฝักจะมีเมล็ดอยู่ถี่เรียงกันยาวไปตามฝัก กลุ่มของเมล็ดฉุนและอมหวาน เป็นที่นิยมของผู้บริโภค สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น แกงกะทิ ต้มกะทิ ผัดเผ็ด ผัดจืด (ใส่กะปินิดหน่อย) นอกจากนี้ยังใช้ต้ม เผาหรือรับประทานดิบ ๆ กับน้ำพริก, แกงเผ็ด ทุกชนิด และขนมจีน ส่วนสะตอดองเปรี้ยวสามารถเก็บรักษาไว้ได้เป็นแรมปี



บูดู



บูดูเป็นอาหารพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมในภาคใต้ ได้มาจากการหมักปลากับเกลือเช่นเดียวกับการหมักน้ำปลา บูดูเป็นอาหารคาว มี ๒ ชนิด คือ บูดูแบบเค็ม สำหรับปรุงแล้วใช้ผักสดจิ้มรับประทานกับข้าวสวย และบูดูแบบหวาน ที่เรียกว่า น้ำเคย ใช้สำหรับคลุกกับยำปักษ์ใต้ บูดูทั้ง ๒ ชนิดนี้ ได้จากการหมักปลา





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น